“การขัดผิวแบบแห้ง” เป็นเทคนิคการดูแลผิวที่มีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ตามตำนานกล่าวว่าคลีโอพัตราแปรงผิวของเธอก่อนที่จะลงอาบน้ำนม ต่อมาในยุคปัจจุบันก็เกิดกระแสการขัดผิวนี้ในแพลตฟอร์ม TikTok และ #drybrushing เป็นแฮชแท็กที่อยู่ในกระแสมาแรงมีผู้เข้าชม 1.4 ล้านครั้ง และก่อให้เกิดความสนใจของสาว ๆ ใช้เทคนิคนี้กันมากมาย และในบทความนี้เราก็ได้นำความรู้ดี ๆ มาฝากคุณอีกเช่นเคย
การแปรงแบบแห้ง #drybrushing คืออะไร?
การแปรงแบบแห้งเป็นการขัดผิวด้วยแปรงหยาบ เพื่อเพิ่มความเรียบเนียนและความอวบอิ่ม ประโยชน์ที่ได้รับจากการแปรงแบบแห้ง ได้แก่…ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต ขจัดผิวที่ตายแล้ว และปรับปรุงพื้นผิวของผิว แต่ด้วยความที่เป็นการแปรงแบบแห้งไม่มีสารหล่อลื่นจากน้ำ หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายต่าง ๆ ถ้าคุณเลือกแปลงที่ไม่ถูกต้อง อาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี นั่นก็คือทำให้ผิวของคุณนั้นแสบแดง ดังนั้นเราจึงนำเทคนิคดี ๆ มาแนะนำกัน
เทคนิคการแปรงแบบแห้งที่ดีที่สุด ไม่ทำให้เกิดรอยแดงและการระคายเคือง
- แปรงสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอ และหลีกเลี่ยงการขัดผิวแบบแห้ง ถ้าคุณเป็นโรคสะเก็ดเงิน หรือโรคเรื้อนกวางหรือหากคุณมีผิวที่ขาดน้ำหรือแพ้ง่าย ไม่ควรแปรงแบบแห้งเด็ดขาด แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีผิวมัน มีผิวปกติ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการจำกัดผิวหนังที่ตายแล้วที่เป็นขุยออกได้ แนะนำให้ใช้แปรงขนธรรมชาติแล้วใช้แปรงปัดเบา ๆ ยาว ๆ ทำซ้ำ ๆ 3 ครั้ง และในส่วนที่มีผิวหนัง เช่น…ผิวหนังบริเวณเท้าหรือตาตุ่ม คุณสามารถออกแรงมากขึ้นอีกนิดได้
- หลังจากที่คุณแปรงแห้ง และอาบน้ำเสร็จแล้ว ให้ทาโลชั่นบำรุงผิวหนา ๆ ที่มีส่วนผสมของ Moisturizing แบบเข้มข้น
- ข้อควรระวังในช่วงแรก ๆ ที่คุณแปรงคุณอาจจะยังกะน้ำหนักไม่ถูก ให้คุณค่อย ๆ เพิ่มน้ำหนักไปทีละนิด และเมื่อใดก็ตามที่รู้สึกเริ่มแสบ หรือหลังจากอาบน้ำเสร็จผิวของคุณในบริเวณนั้นมีความแดงจัด ในครั้งต่อไปคุณควรที่จะลดน้ำหนักลง
และนี่ก็คืออีกหนึ่งเทคนิคในการปฏิบัติดูแลผิวกาย สำหรับผู้ที่มักจะมีขี้ไคล ต้องการดูแลผิวให้มีความสะอาดเกลี้ยงเกลาอยู่เสมอ เทคนิคการแปรงแห้งนี้ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่น่าสนใจ ที่หลาย ๆ คนอาจไม่เคยทราบมาก่อน เพราะส่วนใหญ่แล้วจะสครับผิวหรือขัดผิวหลังจากที่ลงน้ำ หรือว่าลงสบู่แล้ว ลองนำไปใช้กันดู คุณอาจจะพบกับผิวที่เรียบเนียน สะอาดมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้
